ทำงานบริษัทไหนดี เป็นคำถามที่เรามักได้ยินมาตลอดอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะจากผู้ที่จบการศึกษามาหมาดๆ ด้วยตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันเรื่องการหางานที่เพิ่มขึ้น แต่ในทางตรงกันข้าม ด้วยเศรษฐกิจปัจจุบันที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ทำให้มันเป็นเรื่องยากที่บริษัทจะสามารถรับพนักงานได้เยอะเท่าจำนวนของนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่ อีกทั้งความซับซ้อนของขั้นตอนการเรียนรู้งาน หรือระยะเวลาที่ต้องเสียเมื่อต้องดูแลหรือสอนงานให้เด็กใหม่ หลายๆบริษัทจึงอาจมองบข้ามเด็กจบใหม่และเลือกรับผู้ที่มีประสบการณ์ในสายงานแทน
อย่างไรก็ตามก็ยังมีบริษัทมากมายที่ยังพร้อมรับเด็กจบใหม่ที่พร้อมพัฒนาทักษะ ความรู้ และมีความสามารถพอที่จะทำงานในองค์กรได้เพื่อพัฒนาองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ คำถามที่ว่าควรทำงานบริษัทไหนดี จึงมีคำตอบที่อาจตอบได้บ้าง ต่อไปนี้เป็นแนวทางในการเลือกบริษัทประเภทต่างๆ ที่เราเชื่อว่าจะสามารถช่วยคุณพิจารณาได้ว่า ควรทำงานที่บริษัทไหนดี
บริษัทที่มีการทำงานแบบหางเสือเรือ
ทำงานบริษัทไหนดี ? บริษัทแบบหางเสือเรือคือตำแหน่งเล็กที่โตไปพร้อมกับบริษัท คือเป็นการทำงานในบริษัทใหญ่มีตำแหน่ง หน้าที่การงานที่ชัดเจน การทำงานจะเป็นระบบแบบเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทก้าวไปข้างหน้าได้ แต่ไม่ได้มีความโดดเด่นมากนัก เพราะเป็นการทำงานแบบเติบโคไปพร้อมกับบริษัท และทุกคนมีหน้าที่การทำงานที่เท่าๆกัน แต่ขึ้นอยู่กับสายงาน ว่ามีความเชี่ยวชาญ หรือมีประสบการณ์มากมายเท่าใด
อย่างไรก็ตามข้อเสียที่เห็นได้ชัดคือ การสร้างตัวตนเพื่อก้าวไปอีกขั้น คือขั้นของการเป็นหัวหน้างานเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เพราะอย่างน้อยที่สุดสิ่งที่ได้คือการเรียนรู้และเพิ่มพูนประสบการณ์การทำงาน ดังนั้นหากเลือกบริษัทประเภทนี้ด้วยจุดประสงค์ที่ว่าต้องการเป็นหัวหน้างานในเร็ววัน อาจเป็นเรื่องที่ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
บริษัทที่มีการทำงานแบบหัวมด
การทำงานในบริษัทประเภทนี้เป็นการทำงานที่มุ่งเน้นไปที่การทำงานในบริษัทเล็ก แต่จะสามารถได้อย่างเต็มที่ ยิ่งหากคุณเป็นคนที่ทำงานเก่งและมีความสามารถมากๆ จะยิ่งทำให้คุณโดดเด่นและเป็นที่รู้จักในฐานะของคนที่เก่ง และมีโอกาสก้าวหน้าในทางการงานสูงมาก แต่การทำงานอาจกว้างกว่าการทำงานอย่างเดียว อาจจะเป็นการทำงานในสายใกล้เคียงกันและไปได้ในแทบทุกตำแหน่ง เป็นต้น เช่น หากคุณเข้าทำงานในฝ่าย creative นี้อาจหมายถึงคุณต้องทำงานกับฝ่ายนักเขียนของบริษัท และฝ่ายกราฟฟิกดีไซน์ หรือแม้แต่นั่งผลิตงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เป็นต้น
ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือคุณจะได้พัฒนาทักษะความเป็นผู้นำได้ดี และมีบทบาทที่สำคัญต่อความสำเร็จของบริษัท และมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานที่รวดเร็ว ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพการทำงานของคุณ อีกทั้งอาจได้ค่าตอบแทนที่สูงกว่าแบบแรกอีกด้วย
ในทางตรงกันข้าม ข้อเสียคือการทำงานในบริษัทเล็กแบบนี้อาจทำให้คุณต้องทำงานหนักกว่าที่คิด และจะสามารถเห็นผลที่ชัดเจนว่าผลลัพธ์การทำงานออกมาเป็นเชิงบวกหรือเป็นเชิงลบ จึงอาจบั่นทอนจิตใจได้
ดังนั้นจะเห็นว่าการเลือกบริษัทแบบหัวมดเหมาะกับผู้ที่ต้องการความก้าวหน้าในการทำงาน แต่หากเลือกแบบแรกอาจเป็นเรื่องของความมั่นคงในการทำงาน ทำงานบริษัทไหนดี อาจเป็นคำตอบที่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมหรือจุดประสงค์ของคุณเอง เราหวังว่าบทความจะเป็นประโยชน์และช่วยคุณพิจารณาได้ง่ายขึ้นไม่มากก็น้อย