ในปัจจุบันหลายๆ ท่านที่ไม่ได้ทำงานด้านส่งออกสินค้าหรืออยู่ในตลาดอุตสาหกรรมคงไม่ทราบว่า ผู้ส่งของไทยกำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และมาพร้อมกับค่าระวางเรือสูง ซึ่งการส่งออกไทยในปัจจุบันกำลังเผชิญกับปัญหา Logistic disruption (การขนส่งหยุดชะงัก) ซึ่งปัญหาดังกล่าวคืออะไร เกิดอะไรขึ้น กระทบต่อผู้ส่งออกไทยมากน้อยแค่ไหน บทความนี้จะพาทุกๆ ท่านมาพบกับคำตอบกันครับ แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับคำว่า Disruption กันก่อนดีกว่าครับ
คำว่า Disrupt แปลตรงตัวคือ “การหยุดชะงัก” ซึ่งมักถูกใช้ในบริบทของการชักชวนให้มีการ “ปฏิรูป” หรือทำอะไรก็ตาม เพื่อให้เกิดการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ โดยมักจะถูกโยงเข้าสู่เรื่องของเทคโนโลยี เราจึงมักจะเห็นคำว่า Digital Disruption หรือ Disruptive Technology อยู่บ่อยครั้ง แต่ในปัจจุบันนั้นไม่ได้มีเพียงแต่ในด้านของเทคโนโลยีอีกแล้ว ด้านอื่น เช่น การขนส่ง อาชีพต่างๆ หรือแม้กระทั้งรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันของทุกๆ คนกำลังเปลี่ยนไปหรือเรียกอีกนัยนึงว่า “New Normal”
ทำไมตู้คอนเทนเนอร์ถึงขาดตลาด?
โควิด-19 คือ สาเหตุหลัก ซึ่งจากข้อมูลสหประชาชาติ ระบุว่า ทั่วโลกมีตู้คอนเทนเนอร์รวมกันประมาณ 180 ล้านตู้ โดยในปี 2019 ท่าเรือเอเชียมีส่วนในการบริหารจัดการถึง 60 % รองลงมาคือ ท่าเรือยุโรป 15 % อเมริกาเหนือ 7% ลาตินอเมริกา 6% และแอฟริกา 4% ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าตู้คอนเทนเนอร์เปล่าทั้งหมดจะอยู่ที่เอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ เป็นหลัก
ผู้ส่งออกไทยได้รับผลกระทบอย่างไร?
ประเทศไทยมีการใช้ตู้คอนเทนเนอร์ในปี 2562 จำนวน 9.45 ล้านตู้ (ข้อมูลท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือกรุงเทพฯ) แบ่งเป็น ขาเข้า 4.85 ล้านตู้ และขาออก 4.60 ล้านตู้ ทั้งนี้การส่งออกและนำเข้าของไทยปี 2563 มีปริมาณลดลง ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้ปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ในประเทศเกิดความไม่สมดุล เพราะปริมาณการส่งออกมีมากกว่าการนำเข้า ประกอบกับจีนและเวียดนาม ดึงตู้คอนเทนเนอร์เปล่ากลับประเทศค่อนข้างมาก ทำให้ปัจจุบันผู้ส่งออกไทยเผชิญกับการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และการปรับตัวสูงขึ้นของค่าระวางเรือ รวมถึงต้องจองคิวนานในการส่งออกสินค้า ตามปริมาณเรือบรรทุกที่มีอยู่จำกัด
ค่าระวางเรือคืออะไร?
ค่าระวางเรือ หรือ ค่า Freight ของการขนส่งสินค้าขาเข้าและขาออก ซึ่งการขนส่งสินค้าส่วนใหญ่จะใช้การขนส่งทางทะเลด้วยเรือประเภท Container Ship ซึ่งค่าระวางเรือจะคิดจากภาพร่วมทั้งหมดซึ่งได้แก่
1) Weight Ton คำนวณจากน้ำหนักสินค้าที่บรรทุก
2) Measurement คำนวณจากปริมาตรของสินค้า
3) V (Ad Valorem Goods) คำนวณจาก Degree สินค้ามีราคาสูง ถึงแม้ว่าจะมีปริมาตรน้อย น้ำหนักไม่มาก แต่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ การคิดค่าระวางก็จะคิดเพิ่มอีก 3-5 เท่า ตามมูลค่าสินค้า
4) ค่าระวางพิเศษ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายทั้งหลายที่บริษัทเรือ คิดเพิ่มเติมจากค่าระวางพื้นฐาน
เป็นอย่างไรกันบ้างล่ะครับกับข้อมูลและเกล็ดความรู้เกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่ทั่วโลกกำลังเจอกันอยู่ในปัจจุบันเนื่องจาก Covid-19 เห็นได้ว่ากระทบกันไปทุกภาคส่วนจริงๆ นะครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยและขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ